Home

หน้าแรก
ประเภทศัลยกรรม
อัลบั้มภาพ
แผนที่
รวมคำถาม
web board
ค่าใช้จ่าย
ที่นี่ศัลยกรรมตกแต่ง
ข่าวใหม่-นานาสาระ
support
แพทย์ของคุณ
คลีนิคศัลยกรรมหลุยส์
จดหมายถึงแพทย์

 

 

 







ศัลยกรรมเสริมเต้านม
เพิ่มทรวดทรงของร่างกาย เพื่อให้มีรูปร่างและส่วนสัดที่เหมาะสม

เหมาะสำหรับ


เต้านมเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่บ่งบอกความเป็นเพศหญิง ปัจจุบันผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็กไม่สมส่วนกับรูปร่าง คงไม่ปฏิเสธว่าถ้าเลือกได้ก็อยากให้หน้าอกดูดีขึ้นอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อแต่งกายได้อย่างที่ต้องการด้วยความมั่นใจ แม้จะมีผลิตภัณท์ต่างๆช่วยในการเสริมแต่ง ก็ไม่ได้แก้ปัญหาให้ได้ทั้งหมด การเสริมเต้านมด้วยถุงซิลิโคน จึงเป็นคำตอบหนึ่งสำหรับผู้ที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงรูปทรงเต้านมให้ดูดีและเป็นธรรมชาติ ดังนี้

- ผู้หญิงที่มีขนาดเต้านมเล็กไม่ได้สัดส่วนกับรูปร่าง หรือเป็นไปตามพันธุกรรม คือมีเนื้อเต้านมน้อย
- ผู้ชายที่ต้องการมีเต้านมเหมือนผู้หญิง
- ต้องการให้เต้านมมีรูปทรงที่เต็มสมบูรณ์มากขึ้น
- กรณีที่เต้านมมีขนาดไม่เท่ากัน
- เต้านมและผนังทรวงอกผิดปรกติโดยกำเนิด
- เต้านมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการคลอดบุตร
- เต้านมในวัยสูงอายุที่เริ่มมีการคล้อยปริมาณไม่มาก
- ใช้เสริมสร้างเต้านมใหม่หลังการผ่าตัดเนื้อเต้านมออกจากโรคมะเร็ง

(ภาพถ่ายก่อนทำ)

ปัญหาที่ต้องแก้ไข


เต้านมประกอบไปด้วยส่วนของเนื้อเยื่อสร้างน้ำนมและเนื้อเยื่อไขมัน
วางอยู่บนกล้ามเนื้อทรวงอก ในวัยสาวอายุประมาณ 15 ปีเต้านมจะเจริญเต็มที่ ขนาดใหญ่มากน้อยขึ้นกับพันธุกรรม , ความสมบูรณ์ของร่างกาย และระดับฮอร์โมน ถ้าอ้วนขึ้นเต้านมจะใหญ่ขึ้นบ้างจากส่วนของเนื้อเยื่อไขมัน เวลาผอมก็จะมีขนาดเล็กลงได้เช่นกัน ส่วนกรณีช่วงที่มีบุตรเต้านมจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เนื้อเยื่อเต้านมสร้างน้ำนม หลังการคลอดบุตรและหยุดให้นมบุตรต่อมน้ำนมหยุดผลิตนม ขนาดเต้านมจะลดลงเท่ากับก่อนมีบุตร แต่อาจเกิดปัญหาเต้านมคล้อยเพราะเนื้อเยื่อที่เคยยืดมากๆถ้าหดตัวไม่ดีก็จะเกิดเป็นลักษณะที่เหี่ยวย่นแทน ดังนั้นการเสริมเต้านมจะช่วยหนุนดันส่วนของเนื้อเต้านมให้ตั้งขึ้น แลดูใหญ่ขึ้นมากน้อยแปรตามปริมาณที่ใช้ในการหนุน รูปร่างของถุงที่ใช้เสริมก็จะช่วยเติมเต็มในจุดที่ต้องการเน้น เช่น บริเวณเนินอก ส่วนกรณีอกคล้อยไม่มากการเสริมจะช่วยดันตำแหน่งของลานนมและหัวนมขึ้น มากน้อยขึ้นกับเทคนิคการจัดวางตำแหน่งของถุงซิลิโคน
เรื่องการทำเต้านมใหม่หลังตัดออกทันทีจากโรคมะเร็งก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดผลกระทบกระเทือนทางจิตใจของผู้ป่วยที่ถูกตัดเต้านม แต่ต้องขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างดังจะกล่าวรายละเอียดในบทความเรื่องการเสริมสร้างเต้านมหลังการผ่าตัดมะเร็ง

(ภาพถ่ายหลังทำเสร็จทันที)

ใช้เวลาทำ

ประมาณ 1 ชั่วโมง

ยาที่ใช้

ดมยาสลบ

หยุดพัก

สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีหลังฟื้นจากยาดมสลบประมาณ 2 ชั่วโมง แนะนำให้พักในโรงพยาบาลอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อให้ปลอดภัยจากผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดจากยาดมสลบ เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ถ้าไม่มีอาการดังกล่าว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น ระยะพักตัวที่บ้านขึ้นกับลักษณะงาน ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องยกของหนักๆ หรือ ว่ายน้ำ สามารถทำงานได้เลย

ผ่าตัดที่

โรงพยาบาล (เพื่อดมยาสลบและดูแลหลังฟื้นจากยาสลบ)

วิธีการผ่าตัด


( หลังทำ 1 สัปดาห์)

ผู้ที่ต้องการเสริมเต้านมควรจะประเมินขนาดที่ต้องการร่วมกับแพทย์ก่อนเช่น ต้องการขนาดจากคัพเอ เป็นคัพบีหรือซี แพทย์จะประเมินและจัดเตรียมถุงซิลิโคนที่มีปริมาณใกล้เคียงขนาดที่ต้องการ 2 ขนาด จากนั้นแพทย์วิสัญญีจะทำการให้ยาสลบ ระหว่างที่ผ่าตัดผู้รับการเสริมเต้านมจะนอนหลับและอยู่ในความดูแลของวิสัญญีแพทย์โดยตลอด แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณเต้านม 2 ข้าง และทำเครื่องหมายบนเต้านมและรักแร้ 2 ข้าง ( กรณีที่เลือกแผลบริเวณนี้ ) เริ่มทำทีละข้าง โดยสร้างทางเข้าของถุงซิลิโคนที่แผลขนาด 3 เซนติเมตรสำหรับถุงซิลิโคนน้ำเกลือ และ 4 เซนติเมตรสำหรับถุงซิลิโคนเจล แผลจะขนานและซ่อนในรอยย่นของรักแร้ หลังจากได้ทางเข้าแล้วจึงนำเครื่องมือทำโพรงหลังต่อกล้ามเนื้อหน้าอกหรือทำโพรงหลังต่อเนื้อเยื่อเต้านมบนกล้ามเนื้อหน้าอก แพทย์จะประเมินขนาดโพรงและเลือกขนาดถุงซิลิโคนที่ได้สัดส่วนใส่เข้าในโพรงทางแผลที่เตรียมไว้
หลังทำการผ่าตัดเสร็จในหนึ่งข้าง ก็จะทำวิธีเดียวกันสำหรับเต้านมอีกด้าน ก่อนจะเย็บปิดแผลทั้งสองด้าน แพทย์จะปรับเตียงผ่าตัดให้อยู่ในท่านั่ง เพื่อตรวจรูปทรงให้ได้ใกล้เคียงกันมากที่สุด ( เต้านมของคนโดยส่วนใหญ่จะมีขนาดที่แตกต่างกันได้เล็กน้อยก่อนผ่าตัด รวมถึงระดับของปานนมและหัวนมด้วย ) จึงจะทำการเย็บปิดแผล และใช้เทปปิดแผลขนาดใหญ่จัดรูปทรงแทนบราชั่วคราว

แผลผ่าตัด



สามารถทำทางเข้าของถุงซิลิโคนได้หลายตำแหน่ง ดังนี้

1. แผลซ่อนในรอยพับของรักแร้ ( 2-3 เซนติเมตร ) เป็นวิธีที่นิยมทำมากที่สุด

ข้อดี
1. เมื่อแผลหายจะมองเห็นรอยน้อยมาก โอกาสเกิดแผลเป็นนูนมีน้อย
2. ไม่ผ่านและไม่ทำลายเนื้อเยื่อเต้านม ลดโอกาสการติดเชื้อ

ข้อเสีย
1. เป็นการเลาะโพรงจากระยะไกล ดังนั้นหากต้องการแก้ไขฐานนมหรือแก้ไขระดับใต้ราวนมร่วมด้วยจะทำได้ลำบากกว่าวิธีอื่นๆ

2. แผลขนานขอบปานนม ( 3 เซนติเมตร )

ข้อดี
1. แผลอยู่ในรอยขอบของปานนมบนเนื้อเต้านมอยู่แล้ว ดังนั้นการเลาะโพรงจะสะดวกกว่าวิธีอื่นๆ
2. สามารถทำร่วมกับการตกแต่งแก้ไขปานนมในรายที่ต้องการ

ข้อเสีย
1. ต้องลงแผลผ่านเนื้อเต้านม เพิ่มโอกาสการติดเชื้อจากท่อน้ำนม และมีโอกาสเกิดซีสต์ เยื่อพังผืดหดรั้งในเนื้อเยื่อเต้านม ก่อให้เกิดความวิตกกังวลใจ
2. ไม่เหมาะกับปานนมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3 เซนติเมตร หรือมีปานนมสีเข้ม เพราะเวลาที่แผลหายแม้จะไม่เป็นแผลนูน แต่อาจเห็นเป็นเส้นสีขาวตัดกับสีเข้มของปานนมได้

3. แผลใต้ราวนม ( 3-4 เซนติเมตร ) ซ่อนในขอบล่างของบรา

ข้อดี
1. ผู้ที่มีเต้านมคล้อยเล็กน้อยจะบังแผลได้ดี
2. สามารถทำร่วมกับการตกแต่งระดับใต้ราวนมได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ
3. ไม่ผ่านและไม่ทำลายเนื้อเยื่อเต้านม ลดโอกาสการติดเชื้อ

ข้อเสีย
1. ในคนไทยมีโอกาสเกิดแผลเป็นนูน หรือมีสีเข้มจากการเสียดสีกับขอบบรา








(ภาพถ่ายแผลเมื่อ
1 สัปดาห์ หลังทำ)

 

เตรียมตัวก่อนทำ

1. เตรียมบรานิ่มไม่มีขอบล่างแข็ง ขนาดประมาณใกล้เคียงกับเต้านมใหม่ เพื่อใช้ใส่หลังผ่าตัด
2. งดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
3. ตรวจเลือดดูระบบโลหิต การทำงานของไต เอ็กซเรย์ปอด และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจถ้าอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี
4. ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องผ่าตัด

การดูแลหลังทำ

ระยะแรก
1. แพทย์จะให้ยารับประทานต่อ 1 สัปดาห์ ให้ทานจนครบ
2. แผลผ่าตัดทุกบริเวณสามารถอาบน้ำถูสบู่ถูกแผลได้ทันที แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์ ในบางกรณีสามารถใช้วิธีไม่ตัดไหมได้ ช่วงแรกแผลจะเป็นรอยแดงบางๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์จะจางลง และเหลือน้อยที่สุดเมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือนขึ้นไป
3. ไม่ควรยกของหนัก หรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก เช่น การเต้นแอโรบิก หรือการว่ายน้ำปรมาณ 2 สัปดาห์
4. หมั่นนวดเต้านมอย่างน้อย 2 หนขณะอาบน้ำต่อวัน โดยแพทย์จะสอนวิธีการนวดก่อนออกจากโรงพยาบาล
5. ใส่บราได้เลยทันทีก่อนออกจากโรงพยาบาล และควรใส่ทั้งกลางวันและกลางคืนในช่วง 3 สัปดาห์แรกหลังเสริม
6. หลังการเสริมควรรอ 6 เดือนก่อนที่จะตั้งครรภ์
7. หากมีก้อนที่ต้องตรวจหรือตัดชิ้นเนื้อบริเวณเต้านมหลังการเสริม สามารถทำได้โดยปลอดภัย
ระยะหลัง
1. จำเป็นจะต้องนวดคลึงบ่อยๆอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาโพรงที่ใส่ถุงนมมีการหดรัดรอบถุง ทำให้เต้านมแข็ง หดเป็นก้อน

วัสดุที่ใช้

1. ตัวถุงปัจจุบันทำด้วยซิลิโคนมี 2 ลักษณะใหญ่ๆที่ยอมรับและอนุญาตให้ใช้โดยปลอดภัย คือแบบเรียบ และแบบขรุขระหรือบางทีเรียกผิวทราย แบบขรุขระสร้างขึ้นมาเพื่อลดปัญหาการหดรั้งรอบถุงหลังการเสริมอย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เกิดจากปัจจัยเดียว ( อ่านรายละเอียดในตอนท้าย ) ดังนั้นการเลือกใช้ส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์ด้วย

2. สารที่ใส่ข้างในถุง มี 2 สาร คือ

- น้ำเกลือ

ข้อดี
1. ถ้าเกิดการรั่วซึ่งมักจะเป็นตำแหน่งรอยต่อของท่อฉีดน้ำเกลือ จะทราบทันที และไม่มีอันตรายใดๆ เพราะร่างกายสามารถดูดซึมได้หมด
2. เมื่อมีท่อฉีดน้ำเกลือ ดังนั้นระหว่างที่ทำจะสามารถปรับขนาดได้ตามที่ต้องการ เช่นกรณีที่เต้านมทั้งสองข้างมีขนาดที่ไม่เท่ากันตั้งแต่ก่อนเสริม จะใช้ถุงขนาดเดียวกันแต่ใส่ปริมาณน้ำเกลือที่แตกต่างกันเล็กน้อยได้

ข้อเสีย
1. มีรอยต่อระหว่างถุงกับท่อที่ใช้ฉีดน้ำเกลือ ทำให้มีโอกาสรั่วบริเวณดังกล่าว

2. ในช่วง 1 สัปดาห์แรกเวลาคลำจะรู้สึกไม่นิ่มเท่าแบบถุงเจล หลังจากนั้นจะดีขึ้นจนไม่แตกต่างกัน

- ซิลิโคนเหลว

ข้อดี
1. ไม่มีรอยต่อใดๆให้เกิดการรั่ว ยกเว้นการรั่วซึมจากผิวถุง แม้จะมีการปรับปรุงผิวให้เกิดการรั่วน้อยที่สุดแล้วก็ตาม
2. หลังใส่เวลาคลำจะรู้สึกนิ่มกว่าแบบถุงน้ำเกลือ ในระยะยาวไม่แตกต่าง
3. ราคาเท่ากันหรือถูกกว่าขึ้นกับบริษัทที่ผลิต

ข้อเสีย
1. มีขนาดแน่นอน ไม่สามารถปรับขนาดที่แตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างการเสริมได้
2. หากมีการรั่วซึม ซึ่งมักจะเป็นไปอย่างช้าๆ ดังนั้นจะทราบว่ารั่วเมื่อเกิดผลที่ตามมาคือ เกิดการหดรั้งรอบถุงทำให้เนื้อเยื่อเต้านมหดรัดเป็นกระเปาะ ถ้าซึมถึงเนื้อเยื่อเต้านมจะทำให้เต้านมเป็นพังผืดผิดรูป การผ่าตัดแก้ไขให้ดีเหมือนปกติทำได้ลำบาก

- มีการดัดแปลงใช้ถุงเป็น 2 ชั้น ซิลิโคนอยู่ชั้นใน และหุ้มรอบนอกด้วยถุงน้ำเกลือ

ข้อดี
1. หากซิลิโคนรั่วจะอยู่ในถุงน้ำเกลือไม่ซึมเข้าเนื้อเยื่อ
2. มีความนิ่มมากกว่าถุงน้ำเกลืออย่างเดียว

ข้อเสีย
1. ราคาแพง

หมายเหตุ ยังมีถุงอีกหลายลักษณะที่มีการผลิตมาใช้ โดยการดัดแปลงรูปร่าง และลักษณะของถุง รวมทั้งสารในถุง แต่มีข้อแม้คือยังไม่ได้รับการอนุญาติจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย รวมทั้งราคาที่ค่อนข้างสูง

ความปลอดภัย


ข้อจำกัด

ไม่ควรทำการเสริมเต้านมในภาวะต่อไปนี้
1.ไม่สามารถแก้ไขเต้านมที่คล้อยมากได้ ต้องใช้การผ่าตัดเพื่อจัดทรงของเต้านม
1. มีปัญหาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน หรือโรคปอดเรื้อรัง เพราะจะเสี่ยงต่อการดมยาสลบ
2. มีปัญหาระบบเลือดออกผิดปรกติ จะเกิดปัญหาเลือดออกมากและคั่งในโพรง
3. เป็นโรคเบาหวานและไม่สามารถคุมระดับน้ำตาลได้คงที่ จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
4. หากต้องการเสริมหลังการตั้งครรภ์ ควรรออย่างน้อย 4 เดือนหลังการให้นมบุตร

ค่าใช้จ่าย

รวมการรักษาทั้งหมด (รวมถึง ค่าถุงซิลิโคน และ ค่าพักรักษาในโรงพยาบาล 1 คืน )
ถุงซิลิโคนแบบเรียบ ( น้ำเกลือหรือเจล ) 90,000 บาท

การดูแลแก้ไขผลผ่าตัดที่ไม่พึงประสงค์

การทำศัลยกรรมทุกชนิด ย่อมมีโอกาสที่จะมีผลอันไม่ต้องการได้บ้าง( risks and complications)
ลักษณะที่เกิดขึ้น แตกต่างกันตามแต่วิธีการผ่าตัด
โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้น และความสามารถที่จะให้การดูแลแก้ไขให้กลับมาใกล้เคียงปกติเมื่อเกิดขึ้น มีความแตกต่างในแพทย์แต่ละคน
หากศัลยแพทย์ มี ความรู้ และ มี ความระวัง ป้องกัน สิ่งที่อาจเกิดขึ้น และ เลือกใช้วิธีที่เหมาะสม กับคุณ โอกาสที่เกิดผลที่ไม่ต้องการย่อมน้อยลงมาก
ทางคลีนิคยินดีที่จะรับให้การแก้ไข หรือ คำปรึกษาและช่วยดูแล เกี่ยวกับผลอันไม่พึงประสงค์หลังผ่าตัด
รายละเอียด ในวิธีการแก้ไขผลผ่าตัดที่ไม่ต้องการของ การผ่าตัดชนิดนี้ คลิ๊กที่นี่


รวมคำถามคำตอบเกี่ยวกับการผ่าตัดนี้

__________________________________________________________________________________________________________
   
ตาสองชั้น
แก้ถุงใต้ตา เสริมจมูก   เสริมเต้านม   ดูดไขมัน เสริมคาง

Louis plastic surgery clinic provides you the opportunity for consultations with qualified plastic surgeons. They provide you information and guidance in cosmetic and reconstructive platic surgical procedures. They can help you look better and feel better about yourself! So what are you waiting for?
  By Phone: 01-400041O | Feedback | ฉ2001 LOUIS Plastic Surgery Clinic. BKK Thailand. All rights reserved. | Privacy Policy | Legal/Trademark