ดึงหน้าท้อง
กระชับหน้าท้องด้วยการผ่าตัด เพื่อให้หน้าท้องแบนราบ และ ดูผอมลง

ผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีส่วนเกินบริเวณท้อง ทำให้ดูยื่น เกิน ย้อย ไม่สมส่วนหรือไม่มีเอว โดยเฉพาะหญิงที่เคยท้องแล้วมีรอยแตกลายงาและมีหน้าท้องยื่นหลังการมีบุตร ถึงแม้ลดความอ้วนจนผอมหรือออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างไรหน้าท้องที่ยื่นก็ไม่หายได้ จะทำให้แต่งกายลำบาก โดยเฉพาะชุดกางเกง การผ่าตัดเอาส่วนเกินออก ร่วมกับกระชับผนังหน้าท้อง จะช่วยแก้ไขให้บุคคลิกโดยรวมดีขึ้น

(ภาพถ่ายก่อนทำ)

หน้าท้องที่ดูดีมีสุขภาพ ควรจะประกอบด้วย กล้ามเนิ้อที่มีความแข็งแรง และปริมาณไขมันที่พอเหมาะไม่มากจนเกินควร รวมทั้งผิวหนังที่เรียบไม่เป็นลาย หน้าท้องของผู้หญิงขณะที่ตั้งครรภ์นั้น จะมีการยืดขยาย ดังนั้นผิวหนังก็จะถูกยืด รวมทั้งกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องก็ยืดด้วย หลังจากคลอดบุตรแล้ว ผิวหนังก็จะหดตัวคืนสภาพเดิม แต่ส่วนใหญ่การหดคืนนั้นไม่ได้สู่สภาพเดิม 100 เปอร์เซนต์ จึงพบเห้นว่ายังมีรอยแตกของผิว หรือมีผิวหนังยังห้อยเกินอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่มีท้องใหญ่มาก กล้ามเนื้อหน้าท้องก็เช่นกัน ถ้าท้องมีขนาดใหญ่มากจะทำให้ กล้ามเนื้อหน้าท้องที่อยู่ทั้งสองข้างซ้ายขวามถูกยืดให้แยกจากกัน ทำให้ผนังหน้าท้องตรงกลางอ่อนแอ ทำให้ดูป่องยื่นออกมาซึ่งมักจะเป็นส่วนล่างของหน้าท้อง และถึงแม้จะผอมก็ยังพบว่ายังมีหน้าท้องยื่นจากผนังหน้าท้องอ่อนแอ การออกกำลังหน้าท้องทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่ก็ไม่สามารถแก้ท้องที่ห้อยเพราะส่วนที่อ่อนแอคือส่วนตรงกลางระหว่างกล้ามเนื้อ ไขมันนั้นเป็นปัญหาหนึ่งเช่นกันเช่นผู้ที่อ้วนมาก ก็มีการยืดของผิวและไขมันที่มีมากเกินกรณีที่มีไขมันเกินมากๆ หลังการใช้วิธีดูดไขมันอย่างเดียว จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเพราะไม่สามารถปรับหดตัวให้สมดุลย์กับปริมาณไขมันที่หายไป ดังนั้นจึงควรศัลยกรรมเอาผิวหนังที่มากเกินออกร่วมด้วย และถ้ามีผนังหน้าท้องอ่อนแอก็ต้องทำการกระชับผนังหน้าท้องให้กลับสู่สภาวะปกติ

(ภาพถ่ายหลังทำเสร็จทันที)

ประมาณ 2-4 ชั่วโมง

ใช้ยาดมสลบ.

พักที่โรงพยาบาล 1-2 วัน พักต่อที่บ้านอีกประมาณ 3-5 วัน ขึ้นกับงานที่ทำ

โรงพยาบาล

(ภาพหลังทำ 1 สัปดาห์)

ส่วนการผ่าตัด แพทย์จะทำเครื่องหมายบนหน้าท้อง ส่วนล่าง เป็นแนวขวาง โดยแผลจะอยู่ในแนวต่ำกว่าขอบของชุดชั้นใน เพื่อซ่อนรอยแผลไว้ในกางเกง (คล้ายแผลผ่าตัดคลอดบุตร) จากนั้นจะทำการเลาะเนื้อเยื่อไขมันพร้อมกับผิวหนังส่วนเกินออก ระหว่างนี้ ในบางบริเวณที่ไม่สามารถตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินทิ้ง จะใช้วิธีดูดไขมันเพื่อปรับแต่งบริเวณดังกล่าวเพื่อให้ได้สัดส่วนที่ดีมากขึ้น แพทย์จะประเมินความหย่อนของกล้ามเนื้อหน้าท้องหลังการกำจัดเนื้อไขมันที่เกิน ถ้ามีความหย่อน จะใช้ไหมเย็บกระชับบริเวณผนังหน้าท้องที่อ่อนแอและหย่อนให้ตึง ซึ่งจะดึงเอากล้ามเนื้อหน้าท้องซ้ายและขวาที่แยกจากกัน ให้กระชับเข้ามาหากันเหมือนเดิม โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายใดใดต่อตัวกล้ามเนื้อ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดนี้แล้ว จะถึงขั้นตอนที่จะแก้ไขผิวหนังที่หย่อนหรือมีรอยแตกซึ่งมักจะเป็นที่ท้องส่วนล่าง แพทย์จะดึงหน้าท้องลงล่าง และ ทำการวัดเพื่อกะว่าผิวหนังเกินเท่าไร และเอาผิวหนังส่วนเกินนั้นออก จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการเย็บปิดแผลให้เรียบร้อย มีบางกรณีที่ผู้ป่วยอาจจะมีแผลแนวตั้งกลางท้องอยู่แล้ว หรือในรายที่หน้าท้องหย่อนมาก และต้องการเน้นให้เกิดรอยคอดบริเวณเอว ก็ควรลงแผลตรงกลาง ( ตรงตำแหน่งเดิม ) เพื่อตกแต่งแผลและที่สำคัญคือจะช่วยดึงหน้าท้องจากด้านข้างร่วมด้วย

มีได้ 2 ลักษณะ

1. แผลตามขวางซ่อนในรอยขอบบิกีนี่
เหมาะสำหรับ นิยมใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าท้องทั่วไป
2. แผลรูปตัว T กลับหัว คือ แผลลักษณะข้อที่ 1 แต่เพิ่มรอยตรงกลางมากน้อยเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีแผลตรงกลางหน้าท้องจากการผ่าตัดอื่นๆ และต้องการตกแต่งแผลเก่า
- ผู้ที่หน้าท้องหย่อนมากๆและต้องการเน้นให้เกิดรอยคอดบริเวณเอว

(ภาพถ่ายทันทีหลังทำเสร็จ)

(ภาพถ่ายแผลเมื่อ 1 สัปดาห์ หลังทำ)

1. ให้แพทย์ตรวจร่างกายทั่วไป พร้อมกับตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอด เพื่อดูความพร้อมของร่างกายต่อการให้ยาดมสลบ ถ้ามีอายุมากกว่า 35 ปีควรจะตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก่อน
2. งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
3. เตรียมสเตย์รัดหน้าท้อง 1 ตัว นำเข้ามาในห้องผ่าตัดด้วย
4. สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ควรงดการสูบบุหรี่ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อผลที่ดีต่อการหายของแผล

1. แพทย์จะเอาท่อระบายออกให้ในวันรุ่งขึ้นหรือก่อนออกจากโรงพยาบาล
2. สามารถลุกเดินได้
3. แผล สามารถถูกน้ำได้ และซับให้แห้ง ดังนั้นควรจะอาบน้ำถูสบู่ถูกบริเวณเหมือนปรกติ
4. แพทย์จะนัดตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์
5. ไม่มีข้อห้ามเรื่องอาหาร ไม่มีข้อห้ามเรื่องแอลกอฮอล์
6. ควรงดการสูบบุหรี่ประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
7. งดการออกกำลังหนัก 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด ส่วนการออกกำลังเกี่ยวกับหน้าท้องเช่น การทำซิดอัพให้งดประมาณ 2 เดือน

ไหมชนิดไม่ละลาย. เพื่อยึดกระชับผนังหน้าท้องที่อ่อนแอ

ไม่สามารถกำจัดรอยแตกลายที่หน้าท้องที่มีมากได้หมดโดยเฉพาะในส่วนบนของหน้าท้อง
ไม่เหมาะกับผู้ที่ยังต้องการมีบุตร เนื่องจาก การตั้งครรภ์จะทำให้ผลการทำศัลยกรรมดึงหน้าท้องสูญเสียไป

85,000-100,000 บาท

การทำศัลยกรรมทุกชนิด ย่อมมีโอกาสที่จะมีผลอันไม่ต้องการได้บ้าง( risks and complications)
ลักษณะที่เกิดขึ้น แตกต่างกันตามแต่วิธีการผ่าตัด
โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้น และความสามารถที่จะให้การดูแลแก้ไขให้กลับมาใกล้เคียงปกติเมื่อเกิดขึ้น มีความแตกต่างในแพทย์แต่ละคน
หากศัลยแพทย์ มี ความรู้ และ มี ความระวัง ป้องกัน สิ่งที่อาจเกิดขึ้น และ เลือกใช้วิธีที่เหมาะสม กับคุณ โอกาสที่เกิดผลที่ไม่ต้องการย่อมน้อยลงมาก
ทางคลีนิคยินดีที่จะรับให้การแก้ไข หรือ คำปรึกษาและช่วยดูแล เกี่ยวกับผลอันไม่พึงประสงค์หลังผ่าตัด
รายละเอียด ในวิธีการแก้ไขผลผ่าตัดที่ไม่ต้องการของ การผ่าตัดชนิดนี้ คลิ๊กที่นี่

รวมคำถามคำตอบเกี่ยวกับการผ่าตัดนี้